ตามสัญญาจากสัปดาห์ที่แล้ว
วีคนี้นอกเรื่องน้ำหอม มาเป็น...รา
วิชาการล้วนๆ ใครไม่ชอบยาวไปผ่านได้
ราอยู่ในอาณาจักรเห็ดรา (Fungi kingdom) ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ชนิด รวมถึงราที่ทำให้เกิดโรคราน้ำค้าง, เห็ดชนิดต่าง ๆ, ราที่ทำให้เกิดโรคราสนิมในพืช, และยีสต์. มีเชื้อราเพียง 100 ชนิดเท่านั้นที่ทราบกันว่าเป็นสาเหตุของโรคที่เกิดกับคนและสัตว์. ส่วนราอื่น ๆ อีกหลายชนิดมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อาหาร นั่นคือทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วและโดยวิธีนั้นสารประกอบที่จำเป็นจึงถูกนำกลับมาให้พืชใช้ได้อีก. นอกจากนี้ รากับพืชยังมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน โดยช่วยพืชดูดซึมสารอาหารจากดิน. และราบางชนิดเป็นปรสิต.
ราสามารถผลิตสารพิษเรียกว่า สารพิษจากรา (mycotoxin) ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์. สารพิษดังกล่าวอาจมีผลต่อเราหากหายใจเข้าไป, กลืน, หรือสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง. แต่ราก็ไม่ได้เป็นอันตรายเสมอไป เพราะราบางชนิดมีประโยชน์มาก (แถมอร่อยด้วย ก็เห็ดไง 😬)
ด้านที่เป็นคุณประโยชน์ของรา 😁
ประโยชน์ของราดินทางโรคพืช ในดินจะเป็นที่อยู่อาศัยของราหลายชนิด โดยเฉพาะราแอสเปอร์จิลลัส เพนนิซิลเลียม และ sexual state ของรา Penicillium เช่น ราทาร์ลาโรไมซีส ฟลาวัส (Talaromyces flavus) สามารถนำมาใช้ยับยั้งการเจริญของราสาเหตุโรคพืชหลายชนิด ได้แก่ Verticllium dahliae สาเหตุโรคเหี่ยวของมะเขือ รา Sclerotium rolfsii สาเหตุโรคโคนเน่าของถั่ว (Jun et al., 1999) และมีรายงานว่า รา Talaromyces flavus สามารถสร้างสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งยับยั้งการเจริญของราสาเหตุโรคที่สำคัญของมนุษย์ (Suzuki et al., 2000; Dong et al., 2006) T. flavus สามารถยับยั้งการเจริญของรา Rhizopus stolonifer ซึ่งเป็นสาเหตุโรคเน่าระดับดินของต้นกล้าข้าวบาร์เล่ย์ (Dethoup, 2007)
ในประเทศไทย Dethoup et al. (2007) รายงานว่า T. flavus ยับยั้งการเจริญของรา Phytophthora parasitica สาเหตุโรครากเน่าโคนเน่าของส้ม Fusarium oxysporum สาเหตุโรคเหี่ยวในพืชหลายชนิด F. semitectum สาเหตุโรคผลเน่าของแตงโม Colletotrichum capsici สาเหตุโรคแอนแทรกโนสของพริกและ C. gloeosporioides สาเหตุโรคแอนแทรกโนสของมะม่วง กล้วย มะละกอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของรามูลสัตว์ทางโรคพืช ราซอร์ดาเรีย ฟิมิโคลา (Sordaria fimicola) พบในมูลกวางและมูลวัว เป็นราที่ชอบแสงและดีดสปอร์ไปได้ไกล ดังนั้นโอกาสที่จะพบรานี้จะปนเปื้อนบนใบพืชจึงเป็นไปได้มาก ราดังกล่าวสามารถนำมาใช้ควบคุมโรคพืชทางชีววิธี ในการยับยั้งการเจริญของรา Pestalotiopsis gupinii ซึ่งเป็นสาเหตุโรคผลเน่าของผลไม้หลายชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ
ราที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันกำจัดวัชพืช ได้แก่ Exserohilum rostratum มีรายงานการนำรานี้มาใช้ควบคุมวัชพืชหลายชนิดได้ผลเช่น การควบคุมวัชพืชตระกูลหญ้า 7 ชนิดได้แก่ หญ้าปากควาย (Dactyloctenium aegyptium), เสือแกรก (Pacinum maximum), หญ้าพง (Sorghum halepense), หญ้าขี้กรอก (Cenchrus echinatus), Texas panicum (Panicum texanum), หญ้าตีนกา (Digitaria sanguinalis) และหญ้าหางหมาจิ้งจอก (Setaria glauca) (Chandramohan and Charudattan, 2001) ในประเทศไทยโดย จิตรา (2547) พบว่ารา Exserohilum rostratum ใช้ควบคุมวัชพืชได้แก่ หญ้าปากควายได้ผลดี
ราที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช Metarhizium anisopliae เป็นราอยู่ในดิน สร้างสปอร์สีเขียวเป็นจำนวนมาก เส้นใยของราจะเจริญในลำตัวของตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของด้วงมะพร้าว รา Beauveria bassiana ป้องกันกำจัดหนอนไหม และมีการผลิตเป็นการค้าในการกำจัดแมลงได้แก่ ด้วงปีกแข็ง และหนอนผีเสื้อ (Colorado beetle, Coleoptera และ Lepidoptera) รา Aschersonia spp. เป็นปรสิตบนเพลี้ยแป้ง เป็นต้น รา Cordyceps sinensis เป็นราที่มีสรรพคุณทางยา และเป็นอาหารเสริมสุขภาพ มีราคาสูงในต่างประเทศ พบมากในประเทศจีน เนปาล ธิเบต และประเทศไทย มักพบในหนอนผีเสื้อกลางคืน Hepialus armoricanus
บทบาทสำคัญของราทางการเกษตรได้แก่ การย่อยสลายเศษพืชและอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ ให้เป็นดินที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ราที่มีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายซากพืช ได้แก่ Helicosporium, Volutella, Wiesneriomyces และ Zygosporium และราที่มีรายงานว่าสร้างเอนไซม์เซลลูเลส ได้แก่ Chaetomium cupreum, Gilmaniella humicola, Memmaria echinobotryoides, Scytalidium lignicola, Trichoderma harmatum และ T. harzianum เป็นต้น ราเหล่านี้น่าจะได้รับการพัฒนาเป็นปุ๋ยชีวภาพซึ่งเป็นประโยชน์ทางการเกษตรต่อไปในอนาคต (เลขา และจินตนา, 2539)
ราที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์
ราหลายชนิดสร้างปฏิชีวนะสาร กรดอินทรีย์ และเอนไซม์ต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์ทางการแพทย์ การเกษตรและอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น ปฏิชีวนะสารเพนนิซิลิน (penicillin) จากรา Penicillium notatum ที่มีผลต่อแบคทีเรียแกรมบวก สารไซโคลสปอริน (cyclosporin) จากราดิน Tolypocladium inflatum ใช้ในทางการแพทย์โดยกดภูมิคุ้มกันในร่างกาย (immunosuppresent) ในการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ เช่น ไต หัวใจ Taxol เป็นสารที่มีผลต่อเซลล์มะเร็ง (anticancer) ที่สกัดได้จากพืช yew plant แต่จากการศึกษาพบสารดังกล่าวในรา Pestalotiopsis microspora (Strobel et al., 1996) นอกจากนี้ยังพบสารดังกล่าวในรา Coelomycetes ขนิดอื่น ได้แก่ Botryodiplodia theobromae, Pestalotiopsis annonicola, Bartalinia robillardoides, Chaetomella raphigera, Phoma citri, Phoma oleandri และ Phomopsis pomorum เป็นต้น (Bhuvaneswari, 2005)
ราดิน Myrothecium verrucaria สร้างสาร trichothecene มีผลยับยั้งการเจริญของเชื้อมาลาเรีย (Isaka et al., 1999) รา Talaromyces luteus สร้างสาร luteusin C, D และ E ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญของราบางชนิด (Yoshida et al., 1996) และ รา Talaromyces bacillisporus สร้างสาร bacillisporin D, E ที่มีผลต่อเซลล์มะเร็ง (Dethoup et al., 2006) รามูลสัตว์เป็นราที่อาศัยอยู่ในมูลสัตว์ เป็นราที่ทนทานต่อน้ำย่อยในกระเพาะและสำไส้ของสัตว์ เมื่อสัตว์กินอาหารได้แก่ใบไม้ หรือวัสดุต่างๆที่มีราปนเปื้อน ราจะผ่านระบบทางเดินอาหาร กระเพาะ ลำไส้ และมาอยู่ในมูลสัตว์
เห็ดราที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์และเห็ดราที่มีสรรพคุณทางยาและอาหารเสริม
เห็ดเป็นราชั้นสูงใน Class Basidiomycetes เห็ดเป็นอาหารที่มีประโยชน์และเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดฟาง ซึ่งเพาะเลี้ยงได้ เห็ดบางชนิดเพาะเลี้ยงไม่ได้ เช่น เห็ดโคนจะต้องมีชีวิตร่วมกับปลวก ชนิดของปลวกก็มีความสำคัญที่จะพบเห็ดดังกล่าว เห็ดโคนมีหลายชนิด ที่พบในประเทศไทยจะพบที่จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครราชสีมา เป็นต้น
เห็ดในสกุล Cordyceps เป็นสมุนไพรที่คนจีนใช้เป็นเครื่องดื่มชูกำลังและบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้ รวมทั้งเสริมพลังนักกีฬา เห็ดไมตาเกะ (Maitaka, Grifola frondosa) พบใน ญี่ปุ่น ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป มีราคาแพง มีสรรพคุณในการต่อต้านไวรัส เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความดัน และระดับน้ำตาลในเลือด และจากผลงานวิจัยพบว่าเห็ดไมตาเกะยับยั้งการขยายตัวของมะเร็ง และ เนื้องอกหลายชนิดในหนูทดลอง กระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนป่วยโรคมะเร็งเต้านม ปอด ตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาวและเอดส์ได้ผลดีมาก (ศิริวรรณ และไมตรี, 2545; Holliday, 2007) เห็ดหลินจือ (Reishi, Garnoderma lucidum) เป็นเห็ดที่พบว่ามีการใช้เป็นยารักษาโรคมากที่สุด โดยใช้เสริมสร้างสุขภาพทั่วไป เป็นยาอายุวัฒนะ ยาชูกำลัง ใช้เพิ่มประสิทธิภาพทางเพศ และต่อต้านความชรา พบสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการสร้างภูมิคุ้มกัน และรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคทางเดินปัสสาวะ ต่อต้านและยับยั้งมะเร็ง ไวรัส เป็นต้น Chang (2007) ได้รายงานว่าผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลินจือ ทำให้ผู้ป่วย HIV / AIDS ใน อาฟริกามีสุขภาพดีขึ้น โดยทำให้อยากรับประทานอาหาร มีการย่อยและการดูดซับสารอาหารดีขึ้น
ราเป็นประโยชน์ต่อวงการอาหารอื่นๆด้วย. ตัวอย่างเช่น เนยแข็งชนิดต่าง ๆ เช่น บรี, กามองแบร์, เดนิชบลู, กอร์กอนโซลา, โรเกอฟอร์, และสติลตัน ซึ่งมีกลิ่นรสที่เป็นแบบเฉพาะล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งราบางชนิดในกลุ่มเพนิซิเลียม? เช่นเดียวกับ ซาลามี, ซอสถั่วเหลือง, และเบียร์ผลิตขึ้นโดยใช้ราบางชนิด.
ไวน์ก็เช่นเดียวกัน. เมื่อเก็บผลองุ่นบางชนิดที่โตได้ขนาดในช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีปริมาณเชื้อราพอเหมาะในแต่ละพวง ผลผลิตที่ได้คือไวน์รสเลิศสำหรับดื่มหลังอาหาร. ราบอทรีทิส ซิเนอเรีย (Botrytis cinerea) เป็นชนิดที่ทำให้องุ่นมีน้ำตาลมากขึ้นและทำให้ได้ไวน์ที่มีรสชาติดีขึ้น. ในห้องบ่มไวน์ ราคลาโดสโปเรียม เซลลาเร (Cladosporium cellare) ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับไวน์ขณะที่มีการบ่ม. ภาษิตของผู้ผลิตไวน์ชาวฮังการีถอดความได้ว่า ‘ไวน์ชั้นเยี่ยมเป็นผลมาจากราที่ดี.’
ราที่เป็นโทษ ก่อให้เกิดโรคกับมนุษย์ สัตว์ พืช 😱
ราที่ปนเปื้อนในอาหารได้แก่ Aspergillus flavus ในผลส้มโอ, A. fumigatus บนขนมปัง, A. niger บนขนมปัง, A. ocharceus บนเมล็ดถั่ว, Eurotium chevalieri และ Eurotium amstelodami บนขนมปัง ขนมหวาน และข้าวสุก ราที่ปนเปื้อนบนกระดาษได้แก่ Chaetomium globosum, Cladosporium cladosporiodes, Memnoniella echinata และ Stachybotrys atra และราที่ปนเปื้อนในอากาศเช่น Aspergillus fumigatus ราดังกล่าวจะสร้างสารพิษที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ที่บริโภคอาหารที่มีราปนเปื้อน ตัวอย่างสารพิษ(mycotoxin) ที่ราสร้าง ได้แก่ aflatoxin, ochratoxin, patulin, fumonisin B1, trichothecenes, T-2 toxin, deoxynivalenal (DON), zearalenone, satratoxins, verrucarins, roridins
ตัวอย่างโทษของราแบบอื่นๆ เช่น ในศตวรรษที่หกก่อนสากลศักราช ชาวอัสซีเรียใช้ราคลาวิเซปส์ เพอร์เพอเรีย (Claviceps purpurea) เป็นยาพิษใส่ในบ่อน้ำของศัตรู—นั่นเป็นรูปแบบโบราณของสงครามที่ใช้อาวุธชีวภาพ. ในยุคกลาง ราชนิดเดียวกันนี้ที่บางครั้งขึ้นบนข้าวไรย์ ได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเป็นโรคลมชัก, รู้สึกปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกไฟเผา, เนื้อตายเน่า, และประสาทหลอน. ปัจจุบันโรคนี้มีชื่อว่าเห็ดเออร์กอตเป็นพิษ แต่ในอดีตผู้คนเรียกโรคนี้ว่าไฟของนักบุญแอนโทนี เพราะผู้ป่วยจำนวนมากซึ่งหวังว่าจะหายจากโรคโดยการอัศจรรย์ได้เดินทางไปแสวงบุญที่อารามของนักบุญแอนโทนีในฝรั่งเศส.
สารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งเป็นที่รู้จักกันก็คืออะฟลาทอกซิน เป็นสารพิษที่เกิดจากรา. ในประเทศหนึ่งแถบเอเชีย มีผู้เสียชีวิตปีหนึ่งราว 20,000 คนโดยมีสาเหตุมาจากสารอะฟลาทอกซิน. สารประกอบที่ทำให้ถึงตายได้นี้ถูกใช้ในอาวุธชีวภาพสมัยใหม่.
อย่างไรก็ตาม การได้รับเชื้อราทั่วไปในชีวิตประจำวันไม่ทำให้เจ็บป่วยร้ายแรง เพียงแต่ก่อให้เกิดความรำคาญเท่านั้น. จดหมายข่าวเวลล์เนสของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเบิร์กลีย์ (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “ราส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายแม้ว่าคุณจะได้กลิ่นมันก็ตาม.” ตามปกติแล้ว คนที่มีอาการแพ้เมื่อได้รับเชื้อราได้แก่ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอด เช่น โรคหอบหืด; คนที่เป็นภูมิแพ้, ไวต่อสารเคมี, หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ; และชาวนาที่ได้รับเชื้อราในปริมาณมาก. ทารกและผู้สูงอายุอาจได้รับผลกระทบจากราง่ายกว่า.
ตามที่สำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งแคลิฟอร์เนียกล่าวไว้ ราอาจส่งผลให้เกิดอาการดังต่อไปนี้: ‘ปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น หายใจขัดมีเสียงฟืดฟาด, หายใจไม่ออก, และหอบ; อาการคัดในจมูกและโพรงจมูก; เคืองตา (แสบ, น้ำตาไหล, หรือตาแดง); ไอแห้ง ๆ; ระคายเคืองในจมูกและคอ; ผิวหนังเป็นตุ่มหรือคัน.’
อ้างอิง
งานนิทรรศการ "นวัตกรรมงานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตศาสตร์ ปี 2551 https://www.ku.ac.th/e-magazine/jan52/agri/agri3.htm
ห้องสมุดออนไลน์ https://wol.jw.org/th/wol/d/r113/lp-si/102006005
ประโยชน์ของเห็ดรา https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php…
ประโยชน์และโทษของรา http://agkb.lib.ku.ac.th/ku/search_detail/result/308731
รา http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0831/mold-รา
อาหารขึ้นรากินได้ไหม https://www.honestdocs.co/gourmet-food-safety
จุลชีววิทยา https://www.scimath.org/lesson-biolo…/item/7047-microbiology
น้ำหมัก https://www.bansuanporpeang.com/node/13792
น้ำหมักมังคุด https://www.bansuanporpeang.com/node/15576
ภาพประกอบ แสดงวงชีวิตของ Zygomycetes , Rhizopus
http://www.trueplookpanya.com/…/KNO…/picknowledge/fu_02.jpg…