Money I Need, Please Come to me, So mote it be!
เงิน เงิน ฉันต้องการ โปรดให้เงินของฉันมีเพิ่มมากขึ้น
คุณเคยเรียกร้อง ขอให้มีเงินเพิ่มขึ้นใช่หรือไม่ แม่ค้าเองก็ชอบท่องบทนี้บ่อยพอกันค่ะ สิ่งที่อยากจะบอกคือ ไม่ว่าคุณจะรับเครื่องรางจากร้านเราที่เกี่ยวข้องกับการเงินในรูปแบบใดก็ตาม อาทิเช่น โมโจเรียกเงิน, ขวดเรียกเงิน, ขวดสมุนไพรเรียกเงิน, พุชชี่, กล่องเก็บเงิน, น้ำมันเรียกเงิน, ยันต์เรียกเงิน, น้ำมันหอมเฟรมเฟเทอร์, เครื่องรางเฟรมเฟเทอร์ ชุดพิธีเรียกเงิน สื่อต่างๆ และอืนๆ
นอกจากวิธีใช้โดยปกติตามที่ร้านแนบไปให้แล้ว ยังมีอีกหลายเคล็ด(ไม่) ลับ วันนี้แม่ค้าจะมาเสริมวิธีออมเงินให้ค่ะ
1. กำหนดเป้าหมาย ตั้งมูลค่า และเขียนทามไลน์ ไม่ว่าเราจะทำอะไร การกำหนดเป้าหมาย จะทำให้เราเห็นถึงความต้องการของตัวเองได้อย่างชัดเจน การกำหนดมูลค่าจะช่วยให้สามารถคาดคะเนระยะเวลาที่จะต้องเก็บออม หรือประเมินความเป็นไปได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งทุกคนต่างมีเป้าหมายการเก็บเงินแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะมีความต้องการแบบไหน ก็จะช่วยให้มีกำลังใจในการเก็บเงินตามแผนได้ดีขึ้น ถ้ามีหลายเป้าหมายก็เขียนแยกแปะเป็นกระปุกแล้วค่อยๆ หยอดเก็บไปค่ะ
2. เก็บก่อนใช้ เป็นวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ ของคนอยากมีเงินออมค่ะ ใครๆ ก็ทำได้ เห็นผลง่าย แต่ต้องบังคับตัวเองไม่ให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้นะคะ
วิธีการ เมื่อเงินเดือนออก หรือมีรายรับเข้ามา ให้แบ่ง 10% ของรายได้เพื่อเป็นเงินออมทันที และเงินก้อนนี้เพื่อการออมอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด ส่วนที่เหลือ ก็แบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อจ่ายหนี้ จ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนต่างๆ และใช้จ่ายประจำวัน
(ส่วนตัวแม่ค้าจะแบ่งเป็น 20% ค่ะ เข้าบช.เก็บห้ามใช้ , 20% ฝากเพื่อฉุกเฉิน, 20% สำหรับใช้ส่วนตัว, 20% ทุนร้าน และอีก 20% เป็นทุนสำรองร้านค่ะ)
3. เปิดบัญชีฝากประจำระยะยาว แม่ค้าจะเลือกฝากยาวๆ ประเภท 24-36 เดือนๆ (พวกปลอดภาษี) เพื่อให้มีเงินเก็บ เงินก้อนค่ะ เป็นการป้องกันและบังคับตัวเอง ว่าห้ามถอนถ้าไม่จำเป็น สำหรับลูกค้าที่ไม่คุ้นอาจจะเริ่มที่ 5 ปีก่อน แล้วค่อยขยับขยายก็ได้ค่ะ
วิธีการ : เปิดบัญชีเงินฝากประจำ แล้วฝากเงินจำนวนเท่าๆ กันในบัญชีนั้น ทุกๆ เดือน โดยใช้ระบบการตัดยอดเงินอัตโนมัติตามจำนวน และระยะเวลาที่เราต้องการ แล้วนำฝากเข้าบัญชีฝากประจำทุกเดือน เพราะว่าบัญชีเงินฝากประจำเราจะไม่สามารถนำเงินออกมาได้จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา การตั้งให้มีการตัดเงิน โอนเงินอัตโนมัติจะทำให้เราไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องไปโอนเงิน หรือฝากเงินด้วยตัวเอง ไม่ต้องทำบัตร ATM ด้วยค่ะ แค่นี้เราก็มีเงินเก็บทุกๆ เดือนแน่นอนแล้วค่ะ
4. แบงค์ 50 คือเงินห้ามใช้ รวมถึงแบงค์ใหม่ และเศษเหลือเงินทอน ทุกครั้งที่ได้แบงค์ 50 มาแม่ค้าจะแยกไว้กระปุกหนึ่ง แบงค์ใหม่เลขสวยๆ ก็อีกกระปุกหนึ่ง และเศษเหรียญอีกกระปุกหนึ่งค่ะ พอครบ 1-3 เดือน หรือเต็มกระปุกก็จะเอามานับและฝากเก็บ หรือเอาเช้าบัญชีเก็บ (สำรองเพื่อใช้ฉุกเฉิน) แต่ทุกครั้งที่เอาส่วนนี้ไปใช้ หรือถ้าใช้เงินเกิน ควรจะหามาคืน เป็น 2 เท่าค่ะ
5. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ถ้าไม่ทำก็จะมองไม่เห็นภาพรวมของการใช้เงิน ในแต่ละวัน แต่ละเดือน การจดทุกรายละเอียดจะทำให้เราได้เรียนรู้ ทบทวน และมองเห็นรูรั่ว ที่เราเผลอกิน เผลอใช้ไป และนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ รวมถึงสามารถวางแผนแนวโน้มการลงทุนได้
ส่วนตัวแม่ค้าจะมีสมุดหนึ่งเล่ม ด้านหน้าจดรายรับ ด้านหลังจดรายจ่าย ทุกสินเดือนก็เอามาเช็คค่ะ แนะนำว่าถ้าคุณลงทุนขายของแบบแม่ค้า ก็ควรทำจดทั้งในส่วนของการลงทุน (บัญชีร้าน-ของที่ลงทุนเข้าร้าน) และแยกจดใช้จ่ายส่วนตัว (บัญชีส่วนตัว-คชจ.ชีวิตประจำวัน) เป็นสองเล่มค่ะ (ถ้าไม่จดเลยเราจะรู้ไหม กำไรหรือขาดทุน)
6. รู้จักปฏิเสธ ห้ามใจตนเอง เวลาไปเดินเที่ยว ต้องรู้จักห้ามใจตนเองไม่ให้ใช้หรือซื้ออะไรที่เกินจำเป็น เช่น งานหนังสือหรือเวลาไปซื้ออุปกรณ์ทำงาน แม่ค้าจะไม่พกบัตรเลย แต่จะแยกเงินเป็นส่วนๆ ค่ะ แบ่งเป็นค่ารถ+ค่ากิน และเงินสำหรับช็อปปิ้ง (ตั้งงบก่อนไป) ไม่งั้นแล้วมีเท่าไหร่เรียบค่า ไปห้างก็ต้องรู้จักปฏิเสธพวกบูธที่ชอบกวักๆ คุยดี สติต้องมั่น อย่าได้เพลอควักบัตรเครดิต
7. มีหนี้ต้องรีบใช้ ใครขออย่าให้ยืม (ถ้าไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องสายเลือด) เพื่อนยืมห้ามใจอ่อน เพราะถ้าใจอ่อนนอกจากจะเสียเงินแล้วจะเสียเพื่อนอีกด้วย ฉะนั้นปฎิเสธไปเลยจะดีกว่าค่ะ ยกเว้นพ่อแม่ที่เลียงเรามาให้ไปเถอะกว่าเราจะโต ที่สำคัญ ถ้าเราเพลอยืมใครมาก็ต้องรีบคืนค่ะ สัจจะวาจา อย่าได้ผิดคำ ตอนเราลำบากหน้าหนาไปยืม มีมากมีน้อยก็ต้องใช้คืนค่ะ อย่าอ้างว่าไม่มี เพราะเงินที่เรายืมมามันอาจจะเป็นเงินเก็บ เงินก้อนสุดท้าย หรือเงินสำคัญของคนๆ นั้นก็เป็นได้ ยืมมาเบียดเบียนเขา ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ นอกจากผู้ให้จะเสียความรู้สึกกับคุณแล้ว มันยังเกิดมลทินติดตัว ทำอะไรเจริญยากค่ะ ถ้าอ้างพลัดวันประกันพรุ่ง คุณก็จะไม่มีตลอดไป (เครื่องรางร้านเราไม่ช่วยนะคะกรณีนี้ เพราะถือว่าทำร้ายผู้อื่นค่ะ)
8. งานคือเงิน อยากมีเงินต้องทำงานค่ะ นั่งนอนฝันไปวันๆ เครื่องรางไม่ช่วย เทพ องค์ที่ไหนก็ไม่ช่วยค่ะ อยากมีต้องทำงาน การอธิฐาน หรือขอพรจากสื่อหรือเครื่องราง จะช่วยสร้างโอกาสให้คุณ คุณก็ควรทำงานและเก็บออมด้วยค่ะ ไม่ว่าจะงานประจำ ลงทุน ธุรกิจ ค้าขายใดก็ตาม อย่าอยู่เฉยค่ะ เหนือยก็พัก แล้วค่อยฮึดสู้ต่อค่ะ
สิ่งเหล่านี้ คือ การสร้างนิสัย และวินัยในการออมเงิน จริงๆแล้ว ขอเพียงคุณรู้จักหา เก็บ ใช้ และออมวันละนิดดีกว่ามัวแต่นั่งคิดว่าจะออมเป็นก้อน แล้วไม่เริ่ม ได้มาแล้วไม่แยกเก็บ เพลอแป๊บเดียวก็หมดค่ะ จะลงทุนอะไรก็ควรวางแผนงาน ศึกษาหาข้อมูลให้ดี และมีเงินทุนสำรองค่ะ อย่าไปตายเอาดาบหน้าด้วยการลงตู้ม หรือกู้เขามาลงเลยค่ะ แม่ค้าลองแล้ว อนาถหมดไม่รอดค่ะ โดยเฉพาะถ้าจะมีหุ้นส่วน อย่าทำอะไรปากเปล่าค่ะ สนิทกันแค่ไหน ก็ต้องมีเอกสารให้ถูกต้องตามกฏหมาย การเงินไม่เข้าใครออกใคร ยุ่งยากกับเอกสารทำให้มันชัดเจน ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลังค่ะ
ก็ฝากไว้เท่านี้ ใครลองแล้วได้ผลยังไง หรือถ้ามีวิธีดีๆ ใหม่ๆ มาเล่าสู่กันฟังในคอมเม้นหรืออินบ็อกได้เลยค่ะ
ขอบคุณลูกค้าที่มาปรึกษาและอุดหนุนนะคะ ขออนุญาต(แล้ว) จึงนำบทสนทนามาลงให้อ่านเพื่อศึกษากันค่ะ
ปล. โมโจที่ลค. กล่าวถึง คือ พุชชี่เรียกเงิน (ลิมิเต็ด-ตำหรับยิปซี) กับน้ำมันเรียกเงิน (รุ่นเก่า) ซึ่งตอนนี้ของหมดไม่มีแล้วค่ะ
by Luzchanna @VMM 24/9/61